ผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5

09 Feb 2025
Share แชร์ Share on Facebook Share on Twitter Share on Line
pm-25-from-cars

ฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือที่เรารู้จักกันในชื่อ PM 2.5 เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ฝุ่นชนิดนี้มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ทำให้สามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและกระแสเลือดได้อย่างง่ายดาย ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมา


สาเหตุของการเกิดฝุ่น PM 2.5

ยานพาหนะ: ควันจากท่อไอเสียรถยนต์โดยเฉพาะจากเครื่องยนต์ดีเซล ที่ปล่อยก๊าซและเขม่าควันออกมา

การเผาขยะและเศษผลผลิตทางการเกษตร: เช่น เผาไร่อ้อย เผานาข้าว ส่งผลให้เกิดหมอกควันขึ้นโดยเฉพาะในทางภาคอิสาน

โรงงานอุตสาหกรรม: โรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงกลั่นน้ำมัน และโรงงานที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล

ไฟป่าและการเผาป่า: ทำให้เกิดฝุ่นละอองและเขม่าควันปริมาณมาก


ผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่น PM 2.5

1.ระบบทางเดินหายใจ 

การสูดดมฝุ่น PM 2.5 อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในจมูกและลำคอ มีอาการไอ จาม หายใจลำบาก และอาจทำให้โรคหอบหืดหรือภูมิแพ้กำเริบได้


2.ระบบหัวใจและหลอดเลือด 

ฝุ่น PM 2.5 สามารถเข้าสู่กระแสเลือด เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ และภาวะหัวใจล้มเหลว


3.ระบบประสาทและสมอง 

การได้รับฝุ่น PM 2.5 ในปริมาณมากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมองและอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองในระยะยาวได้


4.ผลกระทบต่อเด็กและสตรีมีครรภ์

เด็กและสตรีมีครรภ์เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง การได้รับฝุ่น PM 2.5 อาจทำให้ทารกในครรภ์เติบโตได้ช้าและเพิ่มความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด 

อ่านเพิ่มเติม 

วิธีป้องกันฝุ่น PM 2.5 เข้าในรถ คลิ๊ก
9 โรคเสี่ยงอุบัติเหตุ ห้ามขับรถ


ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

1.คุณภาพอากาศแย่ลง 

ฝุ่น PM 2.5 ทำให้เกิดหมอกควัน ลดทัศนวิสัยในการขับรถ และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก


2.ผลกระทบต่อพืชและสัตว์

ฝุ่น PM 2.5 ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสัตว์และพืชอีกด้วย เช่น สัตว์เลี้ยงอาจมีปัญหาสุขภาพจากการสูดดมฝุ่นและพืชอาจได้รับผลกระทบต่อการเจริญเติบโต


แนวทางการป้องกันและลดผลกระทบ

  • ป้องกันตัวเอง : โดยสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในวันที่ค่าฝุ่น PM สูง และใช้เครื่องฟอกอากาศภายในบ้าน
  • ลดแหล่งกำเนิดฝุ่น PM 2.5 : ลดการใช้ยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษสูงและหลีกเลี่ยงการเผาขยะ 
  • ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศ : ตรวจสอบและเช็คค่าฝุ่น PM 2.5 จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เพื่อการปรับตัวและป้องกันตัวเองในวันที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูง

เช็คค่าฝุ่นได้ที่เว็บไซต์: www.air4thai.com


มาตราการแก้ PM 2.5 จากรถยนต์

เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจจับท่อไอเสีย

ค่ามาตรฐานไอเสียที่ถือว่าผิดกฎหมายขึ้นอยู่กับประเภทของรถยนต์ การตรวจจับท่อไอเสียแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ 

1.ค่าควันดำ (สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล)

  • ตรวจด้วยเครื่องวัดควันดำแบบกระดาษกรองค่าเกิน 50% ถือว่าผิดกฎหมาย
  • ตรวจด้วยเครื่องวัดควันดำแบบ Opacity Meter ค่าเกิน 45% ถือว่าผิดกฎหมาย

2.ค่าก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และไฮโดรคาร์บอน (HC) สำหรับเครื่องยนต์เบนซินและแก๊ส (LPG/NGV)

  • รถที่จดทะเบียนก่อนปี 2556 CO ต้องไม่เกิน 4.5 HC ต้องไม่เกิน 600 ppm
  • รถที่จดทะเบียนหลังปี 2556 CO ต้องไม่เกิน 1.5% HC ต้องไม่เกิน 200 ppm

บทลงโทษกรณีฝ่าฝืน

  1. ปรับสูงสุด 5,000 บาท
  2. ถูกติดสติกเกอร์ “ห้ามใช้รถ” จนกว่าจะได้รับการแก้ไข
  3. หากฝ่าฝืน อาจถูกยึดรถ หรือดำเนินคดีเพิ่มเติม


รถ "เบนซิน" กับ "ดีเซล" เครื่องยนต์แบบไหนที่ปล่อยมลพิษมากกว่ากัน

คำตอบอาจจะไม่ได้ตรงไปตรงมาเพราะทั้งสองเครื่องยนต์มีทั้งข้อดีข้อเสียต่างกัน วันนี้เราจะมาดูกันว่าเครื่องยนต์ประเภทไหนเป็นยังไงบ้าง ตัวไหนปล่อยมลพิษน้อยกว่ากัน

  • เครื่องยนต์เบนซิล รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินจะปล่อยก๊าซพิษออกมาน้อยกว่าดีเซล โดยเฉพาะฝุ่นควันและไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) แต่ก็ยังมีการปล่อยก๊าซที่เป็นอันตราย เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ ,คาร์บอนไดออกไซด์ เป็นต้น

ข้อดี ปล่อยควันดำและฝุ่นละออง (PM2.5) น้อยกว่า ดีเซล 

ข้อเสีย การเผาไหม้ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าดีเซล ทำให้ปล่อย CO₂ สูงกว่าดีเซล 
 

  • เครื่องยนต์ดีเซล  มีฉายาว่า "พลังแรง ประหยัดน้ำมัน" แต่สิ่งที่มาคู่กันคือการปล่อยมลพิษที่มากกว่าเบนซิล 

ข้อดี เครื่องยนต์ดีเซลจะปล่อย CO₂ น้อยกว่าเบนซิน (เพราะเผาไหม้มีประสิทธิภาพสูงกว่า) 

ข้อเสีย ตัวไนโตรเจนออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกมาเยอะ ทำให้เกิดปัญหา PM2.5 ที่ยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพทางอากาศเป็นอย่างมาก


เครื่องยนต์ตัวไหนปล่อยมลพิษมากกว่ากัน?

  • เบนซิน = ปล่อยก๊าซเรือนกระจก (CO₂) มากกว่า แต่ปล่อย PM2.5 และ NOx น้อยกว่า
  • ดีเซล = ปล่อย PM2.5 และ NOx มากกว่า ทำให้เกิดหมอกควันและปัญหาสุขภาพ
    เครื่องยนต์ดีเซลปล่อยมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่า โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 และควันดำ แต่หากถ้ามองเรื่องภาวะโลกร้อน เบนซินปล่อย CO₂ มากกว่า ซึ่งเป็นตัวเร่งให้โลกร้อนขึ้น 


รถดีเซล ตัวก่อฝุ่น pm จริงไหม ? แก้ปัญหาอย่างไร

       เครื่องยนต์ดีเซลใช้หลักการเผาไหม้ที่แตกต่างจากเครื่องยนต์เบนซิน มันมีแรงอัดสูงกว่าทำให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับมลพิษที่เลี่ยงไม่ได้นั่นคือ ควันดำ, การเกิดฝุ่น PM2.5 และ กำมะถัน (SOx) ที่ทำให้เกิดฝนกรดและฝุ่นละอองขนาดเล็ก ยิ่งโดยเฉพาะรถดีเซลเก่าที่ไม่มีระบบกรองไอเสียที่ดี จะปล่อยควันดำกับ PM2.5 ออกมาเต็มๆ 


จะแก้ปัญหายังไงดี?

  1. ใช้ดีเซลกำมะถันต่ำ – ลดการปล่อย PM2.5 ได้เยอะ
  2. ติดตั้ง DPF (Diesel Particulate Filter) – ช่วยดักจับฝุ่น
  3. เปลี่ยนไปใช้ EV หรือไฮบริด – ลดมลพิษจากต้นทาง


วิธีขับรถช่วยลดฝุ่น PM 2.5 จากการปรับพฤติกรรมการใช้รถ

ขับยังไงให้ช่วยโลกและเพื่อนร่วมถนน แค่ปรับพฤติกรรมขับรถแบบใหม่ก็ช่วยให้ถนนปลอดควันดำขึ้นได้แล้ว มาดูกันว่าทำยังไงได้บ้าง

1.เร่งเครื่องให้น้อยลง = ฝุ่นน้อยลง หลายคนชอบเหยียบคันเร่งโดยไม่จำเป็น ยิ่งเร่งแรง เครื่องยนต์ยิ่งเผาไหม้เชื้อเพลิงมากขึ้น ทำให้เกิดควันและฝุ่น PM2.5 มากขึ้น ทางที่ดี ให้ค่อยๆ เหยียบคันเร่งและรักษาความเร็วให้สม่ำเสมอจะช่วยให้เผาไหม้สมบูรณ์ขึ้นและลดมลพิษได้เยอะ

2.ดับเครื่องถ้าต้องจอดนาน จอดรถติดไฟแดงควรดับเครื่องยนต์ เพราะการติดเครื่องไว้ยังปล่อยก๊าซเสียและ PM2.5 ออกมาเรื่อยๆ 

3.ดูแลรถให้ดี

  • เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามกำหนดทำให้เครื่องยนต์ทำงานดีขึ้นและลดควันเสียได้เยอะ
  • การล้างกรองอากาศสามารถลดฝุ่นที่ออกจากท่อไอเสียได้
  • ตรวจสภาพเครื่องยนต์สม่ำเสมอ 

4.ใช้เชื้อเพลิงสะอาด เช่น ถ้าเป็นรถดีเซลควรใช้ดีเซล B7 หรือดีเซลกำมะถันต่ำ เพื่อลดควันดำ และ ถ้าเป็นรถเบนซินเลือกน้ำมันที่มีมาตรฐานยูโร 5 ขึ้นไป จะช่วยลดมลพิษได้มาก


ดูแลรถที่คุณขับช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ได้จริง

  1. เช็คเครื่องยนต์สม่ำเสมอ เช่น หัวฉีดน้ำมัน หากถ้าหัวฉีดตันการเผาไหม้จะแย่ขึ้นควันดำจะมาเต็มแน่นอน, กรองอากาศ ถ้าสกปรกมากจะทำให้กรองได้ไม่ดีส่งผลให้ไอเสียมีมลพิษสูง และไส้กรองน้ำมันเครื่อง ที่ช่วยให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพ
  2. ตรวจเช็กท่อไอเสีย นำรถเข้าตรวจวัดค่าควันดำที่สถานตรวจสภาพ (ตรอ.)หรือ ถ้าควันดำเกินมาตรฐาน รีบปรับจูนเครื่องยนต์ หรือล้างระบบไอเสีย
  3. ติดตั้งDPF ที่เป็นเทคโนโลยีสามารถลดฝุ่นได้

DPF (Diesel Particulate Filter) หรือ ตัวกรองฝุ่นละอองดีเซล เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยดักจับฝุ่น PM ก่อนที่มันจะออกจากท่อไอเสีย ถ้ารถของคุณสามารถติดตั้งได้ แนะนำให้ติดเลยช่วยลดฝุ่นได้เยอะมาก


การที่เราดูแลรถยนต์ของเราให้ดีไม่ใช่แค่ช่วยลดฝุ่น PM2.5 แต่ยังช่วยให้รถประหยัดน้ำมัน แถมเครื่องยนต์ยังคงทนทานขึ้นอีกด้วย

หากคุณกำลังมองหารถยนต์มือสองคุณภาพดี รถบ้านเจ้าของขายเอง หรือลงขายรถ สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ RodPromptKai ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมรถมือสองจากหลากหลายแบรนด์ พร้อมรับประกันคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า และบริการสำหรับการลงขาย ให้คุณสามารถเช็คราคาขาย ตั้งราคา โพสต์ขาย และรอการติดต่อกลับได้เลย