How to เอาตัวรอดน้ำมันใกล้หมด

28 Feb 2025
Share แชร์ Share on Facebook Share on Twitter Share on Line
what-to-do-when-you-run-out-of-gas

มีใครเคยมั้ยขับรถเพลินๆ อยู่ดีๆ ไฟเตือนน้ำมันโชว์ คิดในใจตายแล้วจะไปต่อยังไงดี? แต่ไม่ต้องตกใจไป ลองทำตามวิธีเหล่านี้สิ แล้วคุณอาจจะเอาตัวรอดได้แบบสบายๆจนถึงปั๊มน้ำมันเลยก็ได้


ทำยังไงให้ไปถึงปั๊มได้อย่างปลอดภัย
 

1.ตั้งสติไว้ก่อน 

อย่าเพิ่งตื่นตูมแล้วเหยียบคันเร่งพุ่งไปข้างหน้าแบบลืมโลก เพราะยิ่งขับเร็ว น้ำมันก็จะยิ่งหมดไวขึ้น ค่อยๆ คิดและหาทางออกดีที่สุด

2.เช็กระยะทางที่เหลืออยู่

รถแต่ละคันจะมีระยะทางที่วิ่งได้หลังไฟเตือนน้ำมันโชว์ ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 30-50 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับรุ่นรถและการขับขี่) ลองเช็กจากคู่มือรถหรือหน้าปัดจอรถ

3.ลดการใช้พลังงานให้มากที่สุด

  • อย่าขับเร็ว ขับที่ความเร็ว 50-60 กม./ชม. กำลังดี
  • อย่าเหยียบคันเร่งแรง ๆ ใช้เทคนิค "ค่อย ๆ กด ค่อย ๆ ผ่อน" เพื่อประหยัดน้ำมัน
  • ปิดแอร์ ถ้าทนไหว การปิดแอร์จะช่วยลดการใช้พลังงานของรถ
  • ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าไม่จำเป็น เช่น วิทยุ ที่ชาร์จโทรศัพท์ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานเบาที่สุด

4.หาปั๊มน้ำมันใกล้ที่สุด

เปิด Google Maps หรือแอปนำทางอื่น ๆ แล้วหาปั๊มน้ำมันที่อยู่ใกล้ที่สุด หากอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณเน็ต ให้มองหาป้ายบอกทาง หรือถามทางจากชาวบ้านแถวนั้น


น้ำมันหมดเกลี้ยงทำไง

กรณีนี้คือโชคร้ายแบบสุดๆ น้ำมันหมดกลางทาง ลองทำตามนี้
 

  • หาที่จอดปลอดภัย เช่น ไหล่ทางกว้างๆ หรือบริเวณที่มีไฟส่องสว่าง
  • เปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อให้รถคันอื่นเห็นและระวัง
  • ขอความช่วยเหลือ โทรหาประกันรถยนต์ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือขอความช่วยเหลือจากคนแถวนั้น
  • เดินไปหาปั๊ม ถ้าไม่ไกลมาก อาจใช้ขวดน้ำมันสำรองเดินไปซื้อน้ำมัน (แต่ต้องแน่ใจว่าปลอดภัยและไม่ทิ้งรถไว้ในจุดอันตราย)

อ่านเพิ่มเติม รวมเบอร์ฉุกเฉิน คลิ๊ก


น้ำมันหมดกลางทาง ประกันช่วยได้ไหม?

คำตอบคือ "ขึ้นอยู่กับประเภทประกันที่ทำไว้" ส่วนใหญ่แล้วประกันรถยนต์แบบชั้น 1 และบางเจ้าของชั้น 2+ จะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินที่รวมถึง บริการเติมน้ำมันฉุกเฉิน ให้ด้วย 

  • บางเจ้าส่งน้ำมันให้ฟรี (อาจมีจำกัดจำนวนลิตร)
  • บางเจ้าส่งให้ได้ แต่ต้องจ่ายค่าน้ำมันเอง
  • บางเจ้าดีลกับอู่หรือบริการอื่นให้แทน

แต่อย่าลืมเช็กก่อนว่าประกันของเราครอบคลุมมั้ย? ถ้าไม่แน่ใจ ลองโทรหา Call Center ของประกันได้เลย


ถ้าไม่มีประกัน ทำไงดี?

 

 1. เรียกบริการช่วยเหลือฉุกเฉินของค่ายรถ

บางค่ายรถมีบริการ Roadside Assistance ของตัวเอง เช่น Toyota, Honda, หรือ Ford 

2. เรียกแอปฯ รถลากหรือบริการช่วยเหลือ

อย่าง Grab หรือ LINE MAN อาจมีบริการซื้อน้ำมันไปส่งให้ถึงที่

 3. ขอความช่วยเหลือจากคนใกล้ๆ

ถ้าใกล้ๆ มีปั๊มน้ำมัน อาจจะขอยืมขวดไปซื้อน้ำมันเติมเองหรือถามคนแถวนั้นว่าใครพอช่วยได้

4. เดินไปปั๊มน้ำมันเอง 

วิธีสุดท้าย ถ้าไม่มีตัวเลือกอื่นจริงๆ ต้องเดินไปปั๊มแต่แนะนำให้ใช้ขวดหรือแกลลอนที่เหมาะสมในการขนน้ำมัน
อย่าลืมเช็กประกันรถของรถตัวเองว่า มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินมั้ย ถ้ามีก็สบายใจขึ้นเยอะเลย แต่ถ้าไม่มีก็เตรียมแผนสำรองไว้ให้พร้อมเสมอได้เลย

น้ำมันหมดบ่อยๆ มีผลเสียต่อรถยังไง?

  • ปั๊มติ๊กพังเพราะไม่มีน้ำมันหล่อเลี้ยง ปั๊มติ๊กหรือปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องอาศัยน้ำมันเป็นตัวระบายความร้อนและหล่อลื่น ถ้าเราขับจนน้ำมันเกือบหมดหรือหมดบ่อยๆ ปั๊มติ๊กตัวนี้จะทำงานหนักขึ้นเพราะต้องดูดน้ำมันที่เหลือก้นถัง ทำให้มันร้อนและเสื่อมสภาพเร็วขึ้นสุดท้ายอาจพังได้
  • สิ่งสกปรกในถังน้ำมันอาจเข้าเครื่องยนต์ น้ำมันที่อยู่ใต้ถังจะมีตะกอนหรือสิ่งสกปรกสะสมอยู่ ถ้าเราปล่อยให้น้ำมันหมดบ่อยๆ ระบบอาจดูดเอาตะกอนพวกนี้เข้าไปใน ระบบเครื่องยนต์ ทำให้รถวิ่งสะดุด กำลังเครื่องตก หรือหนักสุดคือหัวฉีดตัน ต้องล้างหรือเปลี่ยนใหม่
  • กินน้ำมันกว่าเดิม ถ้ามีน้ำมันเหลือน้อย แรงดันน้ำมันอาจไม่คงที่ส่งผลให้เครื่องยนต์ ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ เผาไหม้ไม่สมบูรณ์หรือรถอืด แถมยังทำให้กินน้ำมันมากขึ้น
  • เสี่ยงสตาร์ทรถไม่ติดหรือครื่องดับกลางทาง บางครั้งถ้าเราปล่อยให้น้ำมันหมดจนแห้ง อากาศอาจเข้าไปในระบบน้ำมันทำให้ปั๊มติ๊กดูดน้ำมันไม่ขึ้น ส่งผลให้รถสตาร์ทไม่ติด ถ้าแย่ไปกว่านั้นคือรถดับกลางทาง


ขับแบบไหนให้ประหยัด ไม่ต้องกลัวหมดกลางทาง

วันนี้เราจะมาแชร์ทริค การขับรถแบบไหนให้ประหยัดน้ำมันที่สุด จะได้ไม่ต้องลุ้นทุกครั้งที่ไฟเตือนน้ำมันติด
 

1.ใช้ความเร็วคงที่ ขับให้สมูท 

การเร่งๆเบรกๆบ่อยๆ กินน้ำมันกว่าที่คิด? ถ้าอยากให้รถประหยัดน้ำมัน ลองใช้ความเร็วให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะเวลาขับทางไกล ถ้าเป็นไปได้ ใช้ Cruise Control จะช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันไปได้เยอะเลย

2.อย่าแบกของหนักเกินไป 

ถ้ารถหนักขึ้นน้ำมันก็ต้องใช้เยอะขึ้น ถ้ามีของที่ไม่จำเป็นเช่น สัมภาระเยอะๆ ที่ทิ้งไว้ในรถตลอด ลองเอาออกดูรับรองว่าอัตราการกินน้ำมันดีขึ้นแน่นอน 

3.วางแผนเส้นทางก่อนออกเดินทาง 

ขับหลงทาง = เปลืองน้ำมันฟรี  ก่อนออกเดินทาง คุณลองเช็กเส้นทางล่วงหน้าได้จาก Google Maps เพื่อดูเส้นทางที่สั้นที่สุดหรือเลี่ยงรถติด จะช่วยลดเวลาวิ่งรถ และประหยัดน้ำมันไปได้เยอะเลย

4.เลือกน้ำมันที่เหมาะกับรถ 

บางคนคิดว่าเติมน้ำมันแพงๆ แล้วจะช่วยให้รถแรงขึ้น แต่จริงๆ แล้ว ควรเลือกน้ำมันที่เหมาะกับสเปครถตัวเองมากกว่า เช่น ถ้ารถรองรับแค่ E20 การเติมน้ำมันที่ออกเทนสูงกว่านั้นก็อาจไม่ได้ช่วยให้วิ่งดีขึ้นแถมเปลืองเงินไปฟรีๆอีกด้วย 

5.จอดรถแล้วดับเครื่อง อย่าติดเครื่องทิ้งไว้ 

บางคนติดนิสัย จอดรอใครสักคนแต่ติดเครื่องทิ้งไว้หรือนั่งเล่นโทรศัพท์ในรถโดยไม่ดับเครื่อง ถ้าต้องจอดนานเกิน2 นาที แนะนำให้ดับเครื่องยนต์ไปเลยจะช่วยให้ประหยัดมากขึ้น


เกร็ดความรู้
วิธีใช้ Google Street View ดูสถานที่จริงก่อนออกเดินทาง
ก่อนเดินไกลเตรียมรถยังไงดี 
ขับขี่ปลอดภัยช่วงเทศกาล


อย่าปล่อยให้น้ำมันใกล้หมดบ่อยๆ เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์ของคุณมีปัญหาในระยะยาว คุณควรเติมน้ำมันไว้ ¼ ของถัง จะเป็นทางที่ดีที่สุดและอย่าลืมโทรเช็กประกันว่ามีบริการฉุกเฉินเรื่องน้ำมันหรือไม่

หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่ตรงใจ ทั้งรถใหม่ป้ายแดงและรถมือสองคุณภาพเยี่ยม รถบ้านเจ้าของขายเอง เว็บไซต์รถพร้อมขาย พร้อมให้บริการคุณ เรามีรถหลากหลายรุ่นจากทุกแบรนด์ดัง เช่น Toyota, Honda, Isuzu, Ford, Nissan, Mazda, BMW, Mercedes-Benz และอีกมากมาย ราคาดี คุ้มค่า
เช็กสเปกง่าย  มีเอกสารครบ ซื้อ-ขายปลอดภัย มั่นใจได้เลย ค้นหารถที่ใช่ คลิกเลย! rodpromptkai.com